ประวัติหมู่บ้านโพนก่อ

  บ้านโพนก่อเริ่มก่อตั้งเมื่อก่อนปี  พ.ศ.  2419  โดยมีชาวบ้านที่อพยพมาจากบ้านแพทย์  บ้านเพลีย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในพื้นที่อำเภอคำตะกล้า  จังหวัดสกลนคร  โดยมีนายหัวนอ (ไม่ทราบนามสกุล) อพยพมาตั้งบ้านเรือนอยู่ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำสงครามหรือบ้านโพนก่อท่าในปัจจุบัน  กลุ่มดังกล่าวสันนิษฐานว่าเป็นต้นตระกูลของนามสกุล “ขันติ”  ในปัจจุบัน  อีกกลุ่มที่อพยพมาเข้ามาพร้อม ๆ กันกับกลุ่มของนายหัวนอ  คือกลุ่มของนายสุระ  ปันงาม  และนายคำ-นางสาย  กลุ่มนี้เป็นต้นตระกูลของนามสกุล  “วงค์พุทธา”

  ต่อมาได้มีอีกกลุ่มหนึ่งที่อพยพมาจากพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด  เนื่องจากความแห้งแล้งคือกลุ่มของนายคำ-นางลัง  สันนิษฐานว่าเป็นต้นตระกูลของนามสกุล  “คำภิลัง”  อีกกลุ่มที่เข้ามาจากแขวงคำม่วง  ประเทศลาว  มีท้าวคำดี  เป็นหัวหน้ากลุ่มๆนี้สันนิษฐานว่าเป็นต้นตระกูล  “จันทร”  ในเวลาต่อมาได้มีกลุ่มต่าง ๆ  อพยพเข้ามาในหมู่บ้านอีกคือ  กลุ่มตระกูล  “โมยะ”  และตระกูล  “คัณทะสิทธิ์”  จนถึงปัจจุบัน

  นับตั้งแต่มีการตั้งหมู่บ้านจนถึงปัจจุบัน  หมู่บ้านโพนก่อมีผู้นำของหมู่บ้านที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน  มีดังนี้

  1. นายสุธรรม  วงค์พุทธา

  2. นายตา  โมยะ

  3. นายหวา  จันทร

  4. นายแสง  วงค์พุทธา

  5. นายคำ  โมยะ

  6. นายรมย์  คำภิลัง

  7.  นายปกครอง  โมยะ

  8.  นายนิพนธ์  วงค์พุทธา  เป็นกำนัน
 

อัพเดทข้อมูลเดือนมกราคม  2558

  9. นายสมุทร คำภิลัง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่  6   โทร 085-2150090

  10. นายเวชชัย ภูดีสม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 16  โทร  084-7967930

   ต่อมาเมื่อวันที่  30  กันยายน  2546  หมู่บ้านโพนก่อก็ได้รับอนุมัติจากกระทรวงมหาดไทยให้จัดตั้งหมู่บ้านใหม่จากหมู่  6  เดิมแยกเป็นหมู่ที่  16  ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านคือ  นายเวชชัย ภูดีสม  ที่ตั้งของหมู่บ้าน

สถานที่ตั้งบ้านโพนก่อ

  บ้านโพนก่อ  ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดนครพนม  ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ  60   กิโลเมตร  ห่างจากตัวอำเภอศรีสงครามประมาณ  10  กิโลเมตร  มีลักษณะเป็นที่ราบสูงมีป่าล้อมรอบหมู่บ้าน  ส่วนพื้นที่ทำการเกษตรเป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง  ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายแทบทุกปี  โดยเฉพาะพื้นที่ทำนาปี  เนื่องจากพื้นที่ทำการเกษตรหรือที่นาอยู่ใกล้แม่น้ำสงคราม

อาณาเขตของหมู่บ้าน

  ทิศเหนือ  ติดแม่น้ำสงคราม

  ทิศใต้  ติดหมู่บ้านคำสว่าง และหมู่บ้านนาคำ

  ทิศตะวันออก  ติดหมู่บ้านโพนงาม

  ทิศตะวันตก  ติดหมู่บ้านหนองบาท้าว

สถานที่สำคัญของหมู่บ้าน

  –  วัด  มี  2  แห่ง

  –  วัดป่าสันติธรรม  -วัดยอดแก้ว

  –  โรงเรียนมี  1  แห่ง

อาชีพของราษฎร

  อาชีพปลูกพืชผักสวนครัว  การปลูกพืชผักสวนครัวมีมาตั้งแต่สมัยก่อนตั้งหมู่บ้าน  สมัยก่อนปลูกเพื่อไว้ใช้หรือบริโภคภายในครอบครัวเท่านั้น  ซึ่งเป็นเนื้อที่ไม่มาก  ต่อมาเมื่อประมาณปี  พ.ศ. 2525  ก็ได้มีการเพาะปลูกเพื่อจำหน่ายบริเวณลำห้วยอีหล้า  หรือชลประธานเพราะมีน้ำใช้ในการเพาะปลูกเพียงพอ  มีการเพาะปลูกพืชผักสวนครัวหลายชนิด  เช่น  ถั่วฝักยาว  แตงกวา  ข้าวโพด  หอม  กระเทียม  ฯลฯ  แต่ที่นิยมปลูกกันมากที่สุดคือ  พริก  ภาษาท้องถิ่นเรียกกันว่า  “หมากเผ็ด”  สิ่งที่เป็นผลพลอยได้ในการปลูกพืชผักสวนครัวคือ  ใบบัวบก  ซึ่งเกิดเองตามธรรมชาติในแปลงที่ทำการเพาะปลูก  จึงเป็นการสร้างรายได้เสริมไปในตัว  ทุกวันนี้อาชีพการปลูกพืชผักสวนครัวก็ยังมีปัญหา  คือ  ไม่มีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน

แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ

  ลิงป่าบ้านโพนก่อ  

  ลิงป่าบ้านโพนก่อ  เป็นลิงวอก  หรือลิงแสม  มีมาตั้งแต่สมัยก่อตั้งหมู่บ้าน  หรือประมาณก่อนปี  พ.ศ.  2419  สาเหตุที่ลิงป่าเหล่านี้ได้หลงเหลือและขยายพันธ์มาจนถึงปัจจุบัน  เพราะชาวบ้านมีความเชื่อเรื่องวิญญาณ  และความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อหัวนอ  ซึ่งเป็นผู้เข้ามาก่อตั้งหมู่บ้านคนแรก  ปัจจุบันมีลิงป่าอยู่ประมาณ  300-500  ตัว พื้นที่ลิงป่าอาศัยมีเนื้อที่ทั้งหมด 178  ไร่  ลิงป่าบ้านโพนก่อเป็นสัญลักษณ์ คำขวัญของตำบลนาคำ  และเป็นคำขวัญของอำเภอศรีสงครามที่ว่า  “ลิงป่ามากมี”  ทุกๆ ปี จะมีประเพณีเลี้ยงอาหารลิงแบบโต๊ะจีน  โดยทาง  อบต.นาคำ  จะจัดสรรงบประมาณมาเลี้ยงลิงทุกปีในเดือนพฤศจิกายน  นอกจากจะเลี้ยงโต๊ะจีนลิงแล้วทาง  อบต.นาคำ  ยังได้ให้เงินสนับสนุนในการเลี้ยงลิงตลอดปีด้วยงบประมาณ  30,000  บาท  และสร้างรูปปั้นลิงขนาดใหญ่  บริเวณสามแยกบ้านโพนก่อท่า  ขอเชิญทุกท่านมาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กับนครลิงบ้านโพนก่อ

  ขอแสดงความยินดีกับท่านกำนัน  นิพล  วงค์พุทธา  กำนันแหนบทองคำ  ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทหุ่นปลา  ในงานมหกรรมเทศกาลปลาลุ่มน้ำสงคราม  ประจำปี  2552  หลังจากที่ได้พยายามมาหลายปี  

และในปัจจุบันปี  2557  เทศบาลตำบลนาคำ  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ  ประเภทหุ่นปลา  ยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่ง