ประวัติของหมู่บ้านอุ่มไผ่
บ้านอุ่มไผ่ หมู่ที่ 3 ตำบลนาคำ อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เดิมในบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านเคยเป็นป่าไผ่ทึบ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ ไม้ไผ่กะซะ ” อยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำสงครามเป็นบริเวณที่ยังไม่มีกลุ่มชนใดอาศัยอยู่เลย ประมาณ 180 ปี ให้หลังที่หมู่บ้านคำทาก ได้เกิดโรคระบาด คือ โรคคุดทะราด หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า โรคขี้ทูด ซึ่งเมื่อก่อนยังไม่มียารักษา จึงเกิดการติดต่อกันได้ง่าย ชาวบ้านจึงได้พากับอพยพหนีไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่อื่น โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่มได้ดังนี้
กลุ่มที่ 1 โดยเป็นกลุ่มของนายการี พร้อมกับชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งได้อพยพไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านดอนมะจ่าง ตำบลบ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ในปัจจุบัน
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มครอบครัวของนายแสง นายสาน นายสิม คำสวัสดิ์ พร้อมกับชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งได้พากันอพยพตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณที่ตั้งของบ้านอุ่มไผ่ ในปัจจุบัน หลังจากนั้นหมู่บ้านแห่งนี้ก็ได้มีชาวบ้านจากถิ่นอื่นๆ อพยพเข้ามาเพิ่มเติมมากขึ้น เนื่องจากที่ตั้งของหมู่บ้านมีป่าไม้ไผ่จำนวนมาก ดังนั้น ชาวบ้านจากหมู่บ้านอื่น จึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านอุ่มไผ่” และได้ตั้งชื่อเป็นชื่อหมู่บ้านมาจนถึงทุกวันนี้
การสร้างบ้านในยุคแรกยังเป็นลักษณะกระต๊อบ หลังคงมุงด้วยหญ้าคา ฝาบ้านทำจากไม้ไผ่สานลักษณะตัวบ้านมีใต้ถุน ไม่นิยมตกแต่งบ้าน เส้นทางการติดต่อกับชุมชนภายนอก ในอดีตการติดต่อกับชุมชนภายนอกเป็นไปด้วยความยากลำบาก เส้นทางการติดต่อมี 3 เส้นทาง คือ เส้นทางที่หนึ่ง เป็นเกรียนตัดออกสู่บ้านภูกระแตสู่เส้นทางใหญ่ในการเดินไปอีกหลาย ๆ บ้าน เส้นทางที่สอง คือทางน้ำในการติดต่อกับบ้านหาดกวนหรือล่องเรือตามลำน้ำสงคราม เส้นทางที่สาม เดินลัดเลาะป่าทางทิศตะวันออกในการติดต่อกับบ้านท่าแต ปัจจุบันการพัฒนาเส้นทางจากเส้นทางที่เป็นทางเกวียน ให้เป็นทางคอนกรีตแล้วและมีสะพานข้ามลำน้ำสงครามที่บ้านหาดกวน – อุ่มไผ่
การติดต่อกับหมู่บ้านอื่นๆ ของชาวอุ่มไผ่
บ้านอุ่มไผ่ เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยป่าไม้ โดยเฉพาะบริเวณด้านทิศตะวันออกหมู่บ้าน ชาวบ้านเรียกว่า ดงพระนางบริเวณอีกด้านหนึ่งเป็นป่าทามปกคลุมด้วยป่าไม้ติดกับแม่น้ำสงครามและลำห้วยตูม ผลิตผลจากป่าทามที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือหน่อไม้โดยจะออกหน่อตลอดปี หน่อไม้เป็นอาหารหลักในหมู่บ้านและเป็นสินค้าส่งออกของชาวบ้านในการค้าขายโดยส่งไปขายที่ตัวอำเภอหรือหมู่บ้านใกล้เคียง ส่วนใหญ่ใช้เป็นของฝากถึงญาติพี่น้องในการไปมาหาสู่กัน
ห้วยตูมและแม่น้ำสงครามเป็นแหล่งจับปลาที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของชาวบ้าน แต่การจับปลา เป็นลักษณะทำเพื่อยังชีพ ปลาที่จับได้นอกเหนือจากการบริโภค จะทำปลาร้า หมักเกลือตากแห้ง เพื่อใช้กินในวันต่อๆไป ในอดีตชาวบ้านมักจะประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วม การทำนาในแต่ละปีจะได้ข้าวหรือไม่ได้นั้นขึ้นอยู่กับน้ำ ปริมาณน้ำมากเกินก็คือน้ำท่วม การทำนาก็ไม่ได้ข้าวซึ่งในแต่ละปีนั้นน้ำจะท่วมที่นา คิดเป็นเปอร์เซ็นร้อยละ 60 – 70 % บางคนอาศัยว่ามีนามากประกอบกับดินที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุ เรื่องการใช้ปุ๋ยจึงแทบจะไม่ได้ใช้ผลผลิตจากข้าวจึงได้พอเพียงกับการบริโภคในแต่ละปี บางทีโชคร้ายน้ำท่วมที่นาหมดหรือไม่ก็ท่วมสองปีซ้อน เมื่อการทำนาไม่ได้ข้าว ความเดือดร้อนที่ไม่มีข้าวกินจึงต้องดิ้นรนหาข้าว กับอีกหมู่บ้านหนึ่งที่มีนา เป็นที่ดอนไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม การหาข้าวเป็นในลักษณะแลกเปลี่ยน มากกว่าการซื้อขาย สาเหตุเนื่องจากการที่ไม่มีรายได้ สิ่งที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนมักจะเป็นผลิตผลในหมู่บ้านที่ชาวบ้านหาได้จากป่าทาม เช่น หน่อไม้ ผักป่า เห็ด ส่วนใหญ่มักจะหาปลาที่ได้จากลำน้ำสงครามและห้วยตูม จากที่ได้ทำเป็นปลาตากแห้ง ปลาร้าน ในการแลกเปลี่ยนข้าวที่ชาวบ้านเรียกกันว่า การขอข้าวจากญาติพี่น้อง จากที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง บ้านที่นิยมไปกันคือบ้านใต้ เป็นหมู่บ้านในเขตอำเภอ ท่าอุเทน
อาชีพของชาวบ้าน
บ้านอุ่มไผ่ ประชากรส่วนใหญ่ยึดอาชีพเกษตรกรรมโดยการทำนา ทำไร่ มันสำปะหลัง หาปลา รายได้ในแต่ละปีจะมากน้อยขึ้นอยู่กับราคาทางการเกษตร ชาวบ้านจะอาศัยลำน้ำตูมและแม่น้ำสงครามในฤดูแล้งทำนาปรัง ปลูกผักสวนครัว ปลูกพริก ฯลฯ
อัพเดทข้อมูลปัจจุบัน (มกราคม 2558)
นายวิชัย วรโยธา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 080-7570688